ความรู้เรื่องบัญชี-ภาษีเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดบริษัทใหม่
วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
การบัญชีเบื้องต้น เข้าใจง่ายๆ โดยสังเขป
การบัญชี คือ การเขียนบันทึกรายการทางการค้า การจำแนกแยกประเภทหมวดหมู่ทางการค้า การสรุปผลการดำเนินงาน รวมไปถึงการวิเคราะห์และการแปลความหมายข้อมูลของนักบัญชี
การบัญชีที่มีพื้นฐานเหมือนกับระบบคณิตศาสตร์ (ระบบบัญชีคู่ ซึ่งหมายถึงการบันทึกข้อมูลทางด้านการเงินโดยมีการบันทึกทั้งด้านบวก (เดบิท หรืออาจเรียกว่าการบันทึกบัญชีทางด้านซ้าย) กับ ด้านลบ (เครดิท หรืออาจเรียกว่าการบันทึกบัญชีทางด้านขวา) โดยที่การบันทึกแต่ละครั้งจะต้องมียอดรวมด้านบวกรวมกับด้านลบเป็นศูนย์)
โดยพื้นฐานของการบัญชีทั้งหมดมาจากสมการว่า
"สินทรัพย์=หนี้สิน+ทุน"
ส่วนรายได้และค่าใช้จ่ายถือเป็นส่วนหนึ่งของทุน
วัตถุประสงค์ของการจัดทำบัญชี
- บันทึกเหตุการณ์ทางการค้า
- เพื่อให้เจ้าของกิจการได้ทราบว่าช่วงเวลานั้น ๆ มีสินทรัพย์ หนี้สินและส่วนของเจ้าของ อยู่เป็นจำนวนเท่าใดและอย่างไร
- ใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุนของนักธุรกิจและประกอบการตัดสินใจในการบริหารของเจ้าของกิจการ
- เพื่อเป็นการป้องกันการทุจริตและการสูญหายของสินทรัพย์
- เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของกฎหมาย
- เพื่อเป็นเครื่องมือนำมาใช้ในการคำนวณภาษีที่จะต้องจ่ายแก่รัฐ
ขอบเขตของงานบัญชี
สำหรับขอบเขตของงานบัญชีนั้น เราสามารถจำแนกออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ
- การบัญชีการเงิน (Financial Accounting) - เป็นการบัญชีที่จัดทำโดยบันทึกตามมาตรฐานการบัญชีหรือหลักการบัญชีที่รับรองกันทั่วไป ได้แก่ งบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด นโยบายการบัญชีและหมายเหตุประกอบงบการเงิน เพื่อรายงานต่อบุคคลภายนอกกิจการอาทิ นักลงทุน เจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้น หน่วยงานราชการ ลูกจ้าง
- การบัญชีเพื่อการจัดการ (Managerial Accounting) - เป็นการจัดทำเพื่อรวบรวมข้อมูลเสนอต่อผู้ใช้ข้อมูลที่เป็นบุคคลภายในกิจการ ได้แก่ กรรมการบริหาร ผู้จัดการ หัวหน้าฝ่าย หัวหน้าแผนก ฯลฯ เพื่อใช้ในการวางแผน และควบคุมการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลนั้นส่วนหนึ่งมาจากการทำบัญชี รวมกับข้อมูลอื่นๆทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน เช่น จำนวนชั่วโมงการทำงาน จำนวนหน่วยของวัตถุดิบ เป็นต้น รายงานทางการบัญชีเพื่อการจัดการมีได้หลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริหาร
วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557
คุณพร้อมที่จะเปิดบริษัทรึยัง
ในภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน คนรุ่นใหม่เลิกสนใจการเป็นลูกจ้าง และหันมาเปิดบริษัทเองกันมากขึ้น มีทั้งบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางหรือใหญ่ แล้วแต่ทุนทรัพย์ สิ่งที่นักธุรกิจไม่ควรมองข้ามก็คือการวางแผนระบบบัญชีและภาษีของบริษัทที่ตนกำลังจะจัดตั้งขึ้นมา
หลายคนคิดว่าควรจะจัดการเปิดบริษัทฯให้เสร็จก่อนแล้วจึงค่อยมานั่งคิดเรื่องบัญชี ภาษีทีหลัง ซึ่งจุดนี้เป็นจุดอ่อนที่สำคัญสำหรับนักธุรกิจไทยเป็นจำนวนมาก นักธุรกิจในต่างประเทศล้วนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับต้นๆ ไม่แพ้กลยุทธ์ทางการตลาดหรือการหาลูกค้าเลยทีเดียว หลายคนมองข้ามจุดนี้ไปและมักคิดว่า ก็แค่ธุรกิจเล็กๆ จะต้องวางแผนอะไรมากมาย เดี๋ยวก็ค่อยจ้างคนทำบัญชีทำๆไป หากคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดแบบนี้แสดงว่า คุณยังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจ เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าคุณทำงานโดยไม่มีการวางแผน และไม่คิดว่าตัวคุณเองจะสามารถทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นในอนาคต เพราะหากคุณคิดว่าธุรกิจคุณจะเจริญเติบโตไปไกล คุณก็ต้องคิดแล้วว่า ถ้าวันนั้นมาถึง คุณจะรับมือกับมันยังไง เพราะบัญชีและภาษีเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเริ่มต้นหรือหยุดได้อย่างที่ใจคิด และจะผูกพันกับบริษัทของคุณไปเรื่อยๆไม่ว่าบริษัทของคุณจะเล็กหรือใหญ่ การวางแผนที่ไม่ดี อาจทำให้คุณต้องเสียภาษีมากเกินความจำเป็น หรือจ่ายโดยไม่จำเป็นจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ทำบัญชีที่ไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ
การวางแผนภาษีควรทำตอนไหน?
หลังจากที่คุณทราบแล้วว่าคุณต้องการทำธุรกิจประเภทไหน ก่อนที่คุณจะจดทะเบียนธุรกิจคุณควรจะต้องหานักบัญชี-ภาษีซักคนที่คุณคิดว่าเค้ามีประสบการณ์ ความรู้ ความเชี่ยวชาญมากพอ เพื่อที่จะปรึกษาว่าหาคุณทำธุรกิจประเภทนี้แล้ว คุณจะต้องจ่ายภาษีประเภทไหนบ้าง เมื่อไหร่ อย่างไร มีวิธีไหนที่จะช่วยให้คุณประหยัดภาษีได้บ้าง
วิธีเลือกผู้ทำบัญชี หรือสำนักงานบัญชีง่ายๆ ก็คือ สามารถให้ข้อมูลเรื่องภาษี และระบบบัญชี ระบบเอกสาร การควบคุมภายใน แก่คุณได้ตั้งแต่ก่อนเปิดบริษัท หากทำไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะจ้างมาดูแลบัญชีของบริษัทคุณ เพราะนักบัญชีที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่คุณจะทำ จะต้องสามารถตอบปัญหานี้ให้คุณได้โดยไม่บ่ายเบี่ยง บางท่านอาจเข้าใจว่าคนทำบัญชีก็คือทำบัญชี บัญชีก็เหมือนๆกันทุกบริษัท นั่นเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง เพราะจริงๆแล้ว บัญชีสำหรับธุรกิจแต่ละประเภทจะมีความยากง่าย และความซับซ้อนแตกต่างกัน รวมทั้งภาษีที่เกี่ยวข้องก็จะแตกต่างกันไปด้วย ยกตัวอย่าง เช่น
ธุรกิจซื้อมา-ขายไป ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
บัญชีที่สำคัญ - ระบบสินค้าคงเหลือ, ระบบต้นทุน การรับรู้รายได้ตามงานที่เสร็จ, ต้นทุนงานก่อสร้าง
ภาษี - ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษีหัก ณ ที่จ่าย, อากรแสตมป์
ในสัญญาก่อสร้าง, ภาษีเงินได้นิติบุคคล
เฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑล ติดต่อคุณเปิ้ล 089-1202105 Line id : pern_pkooly
ป้ายกำกับ:
เปิดบริษัท,
เลือกผู้ทำบัญชี,
วางแผนบัญชี,
วางแผนภาษี
ตำแหน่ง:
Bangkok, Thailand
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)